Antoni Gaudi อ่านเรื่องราวของAntoni Gaudi ที่นี่

Antoni Gaudi

นักสถาปัตยกรรมและศิลปะแนว Art Nouveau ก้องโลก Antoni Gaudi

วันที่ 25 มิถุนายน เป็นวันครบรอบวันเกิด 161 ปีของ Antoni Gaudi ซึ่ง Google ได้ออกแบบโลโก้ Doodles เอาไว้เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ Antoni Gaudi ฉะนั้นใครหลายๆ คนอาจจะไม่รู้จัก Antoni Gaudi วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประวัติของเขากัน


Google Doodles Antoni Gaudi i Cornet

ประวัติ Antoni Gaudi
Antoni Gaudi i Cornet หรือ อันตอนี เกาดี อี กูรเนต เกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1852 ในประเทศสเปน เขาเป็นนักสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในประเทศสเปน ด้วยผลงานศิลปะแนว Art Nouveau  อีกด้วย




Antoni Gaudi i Cornet

Antoni Gaudi ในสมัยเด็กนั้น เขาเป็นคนที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เข่า ข้อ ทำให้เขามักจะถูกแยกตัวออกจากกลุ่มสังคมเป็นส่วนใหญ่ เขาจึงเป็นคนที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน แต่นั้นก็เป็นข้อดีอีกสิ่งหนึ่ง นั้นทำให้เขามีสมาธิที่ดี ด้วยวัยในระดับมัธยม ค.ศ. 2867 เขาสามารถวาดเส้นลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ จากนั้นก็ได้ฉายแววความสามารถด้านต่างๆ ออกมา จนเขาสามารถเข้าศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาบาร์เซโลนา เอกสถาปัตยกรรม ในระหว่างการศึกษา เขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเป็นผู้ช่วยสถาปนิกที่มชื่อเสียงหลายคน อีกทั้งยังร่วมทำโครงการฟื้นฟูโบสถ์ซากราดา ฟามิลิยา และโบสถ์อื่นๆ อีกมากมาย


ผลงานสถาปัตยกรรม Antoni Gaudi i Cornet

Antoni Gaudi ยังไม่ได้มีเพียงแต่ความสามารถด้านสถาปัตยกรรมเพียงเท่านั้น เขาสามารถสร่างศิลปะแนว Art Nouveau ซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงมาจากพื้นฐานของสถาปัตยกรรมแบบนีโอ กอทิก ซึ่งมีลักษณะที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เขาจะใช้รูปทรง เส้นโค้ง ลบเหลี่ยมต่างๆ เพื่อให้งานที่ออกมามีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์นั่นเอง

ผลงานสถาปัตยกรรม Antoni Gaudi i Cornet

ช่วงสุดท้ายของชีวิต Antoni Gaudi ศิลปินและนักสถาปัตยผู้ยิ่งใหญ่นี้ ต้องจบลงด้วยวัยเพียง 74 ปี จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหลือไว้เพียงผลงานที่ทรงคุณค่าแก่คนรุ่นหลัง ที่ประเทศสเปนเท่านั้น

Google เปลี่ยน Doodle ใหม่อีกแล้ว โดยวันนี้เป็นภาพศิลปะที่สวยมากๆ โดยภาพทั้งหมดเป็นผลงานของAntoni Gaudí (อันตอนี เกาดี) นั่นเอง

อันตอนี เกาดี อี กูร์เนต (คาตาลัน: Antoni Gaudí i Cornet, 25 มิถุนายน ค.ศ. 1852-10 มิถุนายน ค.ศ. 1926) เป็นสถาปนิกชาวคาตาลัน ประเทศสเปน ที่มีส่วนในการเคลื่อนไหวในแบบโมเดิร์นนิสโม (อาร์ตนูโว) และมีชื่อเสียงเรื่องงานออกแบบที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นตัวของตัวเองอย่างสูง ตัวอย่างเช่น ซากราดาฟามีเลีย

อาร์ตนูโว หรือ อาร์นูโว (ฝรั่งเศส: Art Nouveau - ศิลปะใหม่ ) รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่ายูเกนด์สติล (เยอรมัน: Jugendstil - สไตล์ของวารสารศิลปะที่มีชื่อว่ายูเกนด์) เป็นลักษณะศิลปะ สถาปัตยกรรม และศิลปะประยุกต์ ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงค.ศ. 1890 ถึง 1905 โดยมีจุดเด่นคือใช้รูปแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้และพืชอื่นๆ มาทำเป็นลวดลายเส้นโค้งที่อ่อนช้อย

ลักษณะรูปแบบจะเป็นการลดทอนรูปแบบจากรุขชาติ แมลง และเปลือกหอย ใบไม้ เถาวัลย์ ตามธรรมชาติ นำมาประดิษฐ์เป็นลวดลายประดับทั้งภายในภายนอก อาคารตลอดจนเครื่องใช้ ของประดับบ้านและเครื่องแต่งกายทำให้อาร์ตนูโว เป็นรูปแบบที่นำกลับมาใช้ตกแต่งเสมอๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในอาคารพาณิชย์ เช่น ร้านอาหารฝรั่งเศส ร้านขายเสื้อผ้าสตรี และกิจการเกี่ยวกับความงามอื่น ๆ โดยแรงบันดาลใจจากรูปทรง คือ สีจากธรรมชาติ ของฤดูใบไม้ร่วง ได้แก่ สีจากฤดูกาล เช่น สีโทนส้มและน้ำตาล สีจากพืชพันธุ์ต่าง ๆ เช่น สีเขียวเข้ม สีเขียวตอง และ สีของดอกไม้ เช่น สีขาวนวลดอกมะลิ สีม่วงดอกไอริส สีแดงดอกป๊อบบี้ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการหาวัสดุและแร่ธาตุจากธรรมชาติ ได้แก่ งาช้าง เงิน ทองแดง นำมาใช้ด้วยเช่นกัน

ซากราดาฟามีเลีย ออกแบบโดย อันตอนี เกาดี

ซากราดาฟามีเลีย (คาตาลัน: Temple Expiatori de la Sagrada Família; สเปน: Templo Expiatorio de la Sagrada Familia หรือ Sagrada Familia) เป็นสถาปัตยกรรมประจำเมืองบาร์เซโลนาในประเทศสเปนที่ออกแบบโดยอันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เรียกว่า โมเดิร์นนิสโม เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็นอาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

งานชิ้นนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2425 มีกำหนดก่อสร้างหอคอยทั้ง หมด 18 หอคอย นับตั้งแต่ปีเริ่มสร้างจนถึงปัจจุบันสร้างเสร็จไปแล้วแค่ 8 หอคอย งานคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 50 สถาปนิกผู้ออกแบบถูกรถรางทับเสียชีวิตไปเมื่อ พ.ศ. 2469 โดยศพของเขาได้ถูกฝังไว้ในซากราดาฟามีเลียด้วย

แม้เกาดีจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผู้ร่วมงานของเขายังคงสานต่อโครงการโดยอาศัยรูปถ่าย ภาพร่าง และแบบจำลองที่เกาดีทำไว้แต่แล้วในปี พ.ศ. 2479 โครงการก็ต้องหยุดชะงักเพราะสงครามกลางเมืองในสเปนห้องใต้ดินและแบบจำลอง อย่างละเอียดก็ถูกเผาทำลาย แต่เมื่อสิ้นสุดสงครามทีมงานก็กลับมาทำงานกันต่อ โดยอาศัยภาพร่าง ภาพถ่ายและแบบจำลองอื่น ๆ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย ภายหลังได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ออกแบบ แต่ถึงจะใช้เทคโนโลยีมากมายมาช่วย กว่าโครงการนี้จะเสร็จก็อีกยาวไกลถึงปี พ.ศ. 2569 ลักษณะเด่นของอาคารแห่งนี้จะสังเกตได้ถึงสีที่ตัดกันของหินด้านหน้าและ ด้านหลังอย่างชัดเจน และพบรูปแบบการก่อสร้างที่แตกต่างกันระหว่างแบบเก่าและแบบที่สร้างต่อขึ้นไหม่ในปัจจุบัน