วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีดูสถิติที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊กของคุณง่ายๆ ด้วย Wolfram Alpha



มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากชาวเฟซบุ๊กทุกท่าน รู้หรือไม่ ? เราสามารถดูสถิติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเล่นเฟซบุ๊กของเรา ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความ, อัพโหลดรูปภาพ, กดไลค์, คอมเมนท์, คำพูดที่เราชอบพูดถึงมากที่หลุด และทุกรายละเอียดสถิติที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊กโปรไฟล์ของเรา ทั้งหมดสามารถหาคำตอบจากบริการของ Wolfram Alpha เป็นระบบค้นหาความรู้ด้วยการคำนวณ (Computational Knowledge Engine) ที่มาพร้อมกับความสามารถที่หลากหลาย 

          สำหรับบริการของ Wolfram Alpha ที่เราจะใช้งานในการดูสถิติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊กของเราคือ Facebook Report ส่วนขั้นตอนการดูสถิติต่าง ๆ ต้องทำอย่างไรบ้างนั้น มาติดตามกันเลยจ้า 

สถิติที่ Wolfram Alpha แสดงให้เราทราบมีดังนี้ 

  ข้อมูลโปรไฟล์ วันเกิด, อายุ เป็นต้น
  สถิติการโพสต์ลิงก์, ข้อความและการอัพโหลดรูปภาพ
  จำนวนโพสต์, ไลค์ และคอมเมนท์ทั้งหมดในโปรไฟล์เฟซบุ๊กของเรา
  คำที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุด
  โพสต์ที่ได้รับการกดไลค์มากที่สุด และโพสต์ที่มีคอมเมนท์เยอะที่สุด
  รายชื่อเพื่อนที่มาคอมเมนท์และแชร์โพสต์
  แสดงพื้นที่ ที่เช็กอินผ่านเฟซบุ๊กทั้งหมด
  สถิติการใช้แอพพลิเคชั่นบนเฟซบุ๊ก
  สถิติการใช้งานเฟซบุ๊กผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ผ่านเว็บ, ผ่านแอพต่าง ๆ เป็นต้น
  แสดงจำนวนอัลบั้มและรูปภาพทั้งหมด
  จำนวนเพื่อน ถูกแบ่งเป็นเพศและสถานะต่าง ๆ 
  แสดงรายชื่อเพื่อนที่มีอายุมาก และอายุน้อยบนเฟซบุ๊กของเรา

วิธีดูสถิติต่าง ๆ บนเฟซบุ๊กด้วย Wolfram Alpha 

1. เข้าไปที่เว็บ www.wolframalpha.com คลิกปุ่ม Sign In จากนั้นคลิกปุ่ม Create an Account หรือจะเลือกล็อกอินผ่านเฟซบุ๊กก็ได้




2. เมื่อสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว จากนั้นพิมพ์คำว่า Facebook Report ในช่องค้นหา (ตามภาพ) 


3. หน้าเว็บก็จะพาไปยังเครื่องมือที่ใช้สำหรับดูสถิติต่าง ๆ ให้คลิกปุ่ม Analyze My Facebook Data


4. จากนั้นให้เชื่อมต่อบัญชีเฟซบุ๊กของเราเข้ากับบริการ Wolfram Alpha โดยคลิกที่ Go to App และ Allow เพื่ออนุญาตให้เชื่อมต่อบัญชีเฟซบุ๊ก



5. คลิกปุ่ม Generate My Report เพื่อสร้างรายงานและดูสถิติเฟซบุ๊กของเรา เมื่อคลิกแล้วให้รอสักครู่ เพื่อให้ระบบประมวลผลสถิติต่าง ๆ โดยจะมีแถบสถานะเป็นตัวบอก



6. เมื่อระบบประมวลผลข้อมูลเรียบร้อย ก็จะแสดงข้อมูลทั้งหมดในรูปแบบต่าง ๆ มีทั้งแผนภูมิ, กราฟ และข้อมูลต่าง ๆ ที่เราอยากรู้ สามารถเลื่อนลงมาเพื่อดูข้อมูลตามลำดับ นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดข้อมูลมาเก็บไว้ดูได้อีกด้วย  


          เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีดูสถิติการใช้งานเฟซบุ๊กที่เกิดขึ้น หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ หลายคน ได้รับรู้สิ่งที่เกิดบนเฟซบุ๊กตลอดเวลาที่ผ่านมา และน่าจะเป็นข้อมูลให้กับเพื่อน ๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับด้านการตลาด ทำให้สามารถวิเคราะห์และสามารถสร้างคอนเทนต์เพื่อโพสต์ให้คนอื่น ๆ สนใจและติดตามเฟซบุ๊กของเรามากขึ้นอีกด้วย 

เฟซบุ๊กเปิดตัวระบบค้นหาข้อมูลแบบใหม่ Graph Search ค้นหาง่ายกว่าเดิม


  เมื่อคืนวันที่ 16 มกราคม เวลา 10.00 AM PT (เวลาท้องถิ่น) หรือช่วงตีหนึ่งตามเวลาในประเทศไทย เฟซบุ๊ก (Facebook) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการโซเชียลเน็ตเวิร์กได้จัดงานแถลงข่าวที่บริษัทและได้เชิญสื่อมวลชนจากภายนอกเข้าร่วมงานเพื่อเปิดตัวระบบค้นหาข้อมูลแบบใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทุกคน สามารถเข้าถึงข้อมูลบนเฟซบุ๊กได้ง่ายขึ้นกว่าระบบค้นหาที่มีอยู่เดิม โดยเฟซบุ๊กได้เรียกระบบค้นหาใหม่นี้ว่า Graph Search มาทำความรู้จักกับระบบค้นหาข้อมูลแบบใหม่นี้กัน 


 Graph Search


 Graph Search

          Graph Search คือ ระบบการค้นหาข้อมูลแบบใหม่ ซึ่งเป็นระบบค้นหาเฉพาะภายในเว็บไซต์ของเฟซบุ๊กเท่านั้น หน้าที่ของระบบค้นหาแบบใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งหมดในเฟซบุ๊กได้ดีและง่ายขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะแตกต่างจากระบบค้นหาข้อมูลบนเว็บทั่วไป เช่น Google ที่เน้นการค้นหาจากคำค้นหรือที่เราเรียกกันว่า คีย์เวิร์ด (keyword) แต่สำหรับ Graph Search ของเฟซบุ๊กจะทำงานในลักษณะรวมวลีสำหรับการค้นหา (Combine Phrases) เช่น เพื่อนที่อยู่จังหวัดเดียวกับเรา, เพื่อนที่ชื่นชอบเพลง, ภาพยนตร์, ร้านอาหาร หรือค้นหารูปภาพที่เพื่อนชอบ เป็นต้น ซึ่งข้อมูลจากการค้นหาผ่าน Graph Search จะมีผลการค้นหาแตกต่างออกไปตามจำนวนเพื่อนของเราที่มีอยู่เฟซบุ๊ก รวมถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานกับข้อมูลต่าง ๆ ที่มีในเฟซบุ๊กด้วย นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อโยงข้อมูลจากเว็บไซต์และข้อมูลอื่น ๆ ภายนอก ร่วมกับบริการค้นหาของไมโครซอฟต์อย่าง Bing อีกด้วย 



 Graph Search

          ทั้งนี้ Graph Search ระบบค้นหาข้อมูลแบบใหม่ของเฟซบุ๊ก ยังอยู่ในสถานะการทดสอบ (Beta) ในวงจำกัดหรือเปิดทดสอบเฉพาะผู้ใช้บางกลุ่มเท่านั้น ในเบื้องต้นทางเฟซบุ๊กได้เน้นให้ระบบ Graph Search สามารถสืบค้นไปยังข้อมูลที่สำคัญก่อน เช่น บุคคล รูปถ่าย สถานที่ และความสนใจ สำหรับใครที่สนใจสามารถลงชื่อเพื่อขอทดสอบระบบการค้นหาแบบใหม่นี้ได้ที่ www.facebook.com/about/graphsearch จากนั้นเลื่อนลงมาด้านล่างสุดของหน้าจอแล้วคลิกปุ่ม Join Waiting List ส่วนใครที่ยังงง ๆ ว่าระบบค้นหาแบบใหม่นี้คืออะไร สามารถชมคลิปวิดีโอแนะนำได้จากด้านล่างนะครับ 

          อย่างไรก็ดี ด้วยจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก 1 พันล้านคนและข้อมูลจำนวนมหาศาลที่อยู่บนเฟซบุ๊ก ซึ่งทางกูเกิลยักษ์ใหญ่แห่งวงการเสิร์ชเอนจินก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนนี้ของเฟซบุ๊ก ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า Graph Search ระบบค้นหาข้อมูลแบบใหม่ของเฟซบุ๊กน่าจะเป็นคู่แข่งบริการค้นหาที่น่ากลัวสำหรับกูเกิลไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม งานนี้คงต้องรอดูกันยาว ๆ ว่าเฟซบุ๊กจะครองโลกออนไลน์หรือขึ้นมาเทียบชั้นกับกูเกิลได้หรือไม่







คลิป Facebook Graph Search - Revealed at Live Conference Video 2 โพสต์โดย David King สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

เฟซบุ๊กเผยโฉมหน้า News Feed แบบใหม่ ดีไซน์สวยกว่าเดิม


  เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก (Facebook) ได้จัดงานอีเว้นท์พร้อมกับเชิญสื่อต่าง ๆ มาร่วมงาน โดยไฮไลท์สำคัญของงานนี้ก็คือการเปิดตัวหน้า News Feed (รวมข่าว) ที่มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ เน้นอวดรูปภาพและแสดงเนื้อหาที่โดดเด่นมากกว่าเดิม ซึ่งรูปแบบหน้า News Feed แบบใหม่จะสอดคล้องกับหน้าเว็บในเวอร์ชั่นมือถือมากขึ้น 


News Feed

          สำหรับงานครั้งนี้นำทีมโดย Mark Zuckerberg ได้เปิดเผยว่ารูปแบบหน้า News Feed แบบใหม่จะทำให้ผู้ใช้จะสามารถเลือกดู Feeds ต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยประสบการณ์การใช้งานจะใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นแพลตฟอร์มมือถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งหน้า News Feed แบบใหม่จะทำให้ผู้ใช้เลือกอ่านสิ่งที่ตัวเองสนใจ สามารถเลือกดูทุกอย่างรวมกันตามลำดับเวลา เช่น การเลือกดูเฉพาะกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยจุดเด่นของ News Feed แบบใหม่ มีดังนี้ 

News Feed


News Feed

  คอนเทนต์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนหน้า News Feed แบบใหม่จะดูมีมิติและรู้สึกน่าสนใจมากขึ้น เช่น การแชร์รูปภาพ, ลิงก์, อัลบั้ม และแผนที่ ทุกอย่างจะดูชัดเจนและน่าสนใจมากขึ้น
  เลือกประเภทของฟีดที่เราต้องการให้แสดงได้ เช่น ฟีดจากเพื่อนทั้งหมด (Feed from All Friends), ฟีดเฉพาะที่เป็นรูปภาพ, ฟีดเฉพาะเพลง ซึ่งอารมณ์จะคล้าย ๆ กับเรากำลังอ่านหนังสือพิมพ์และเลือกอ่านคอลัมน์ที่เราสนใจ

  หน้าเว็บ News Feed แบบใหม่กับหน้าเว็บเวอร์ชั่นมือถือจะมีรูปแบบเหมือนกันมากขึ้น โดยจะมีแถบสถานะด้านซ้าย เพื่อเลือกดูเมนูต่าง ๆ เช่น ฟีด, ข้อความ, แฟนเพจ, แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เป็นต้น (คนที่ใช้เฟซบุ๊กเวอร์ชั่นมือถือน่าจะชินกับส่วนนี้) นอกจากนี้ยังมีการบอก New Stories เพื่อมีการอัพเดทเนื้อหาใหม่ ๆ บนหน้า News Feed ซึ่งเหมือนกับเวอร์ชั่นบนมือถือนั่นเอง 

          ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก จะเริ่มทยอยปรับหน้า News Feed แบบใหม่ให้กับผู้ใช้บางส่วนก่อน แต่สำหรับใครที่อดใจรอไม่ไหวอยากจะลองหน้า News Feed แบบใหม่ก่อนใคร สามารถไปแจ้งความต้องการได้ที่ facebook.com/about/newsfeed จากนั้นเลือกลงมาด้านล่างสุดและคลิกปุ่ม Join Waiting List และรอให้ทางเฟซบุ๊กอัพเดทหน้า News Feed แบบใหม่ให้กับบัญชีของเรา 

          อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงหน้า News Feed แบบใหม่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งของเฟซบุ๊ก นับตั้งแต่มีการเพิ่ม News Feed เข้ามาในปี 2006 ซึ่งแน่นอนการเปลี่ยนย่อมส่งผลให้ผู้ใช้งานบางส่วนเกิดอาการไม่ชื่นชอบกับหน้า News Feed แบบใหม่แน่นอน เหมือนครั้งที่เฟซบุ๊กได้เปลี่ยนหน้าโปรไฟล์เป็นแบบ Timeline แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างมีการพัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ดังนั้นผู้ใช้งานควรทำใจยอมรับและปรับตัวเข้ากับระบบใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอนะครับ 






คลิป Facebook News Feed โพสต์โดย theofficialfacebook สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

Samsung Galaxy S4 เปิดตัวแล้ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung Galaxy S4 เปิดตัวแล้ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  engadget.com , droid-life.com

           หลังจากรอลุ้นกันมานานหลายเดือน ในที่สุดซัมซุงก็ได้เปิดตัว Samsung Galaxy S4 ออกมาให้ได้ยลโฉมกันแล้ว งานนี้เชื่อว่าคงทำให้หลาย ๆ คนอยากจะได้มาครอบครองเร็ว ๆ เลยล่ะ พอขนฟีเจอร์ใหม่มาแบบชนิดที่ว่า ล่อตาล่อใจ ทำให้หลงรักเอาได้ง่าย ๆ ทั้งสาวกซัมซุง หรือคนที่ไม่ใช่สาวกซัมซุงก็เถอะ

           โดยซัมซุงได้เปิดตัว Samsung Galaxy S4 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ที่ Radio City Music Hall มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ด้วยรูปลักษณ์ตัวเครื่องที่ไม่ได้แตกต่างอะไรกับ Samsung Galaxy S3 เท่าไรนัก แต่หน้าจอมีขนาดใหญ่กว่า ตัวเครื่องเบาและบางกว่า (บาง 7.9 มม. หนัก 130 กรัม) ส่วนสเปคนั้น เรียกว่าดีกว่า แรงกว่า มีรายละเอียดยังไงบ้าง ไปดูกันเลยครับ

          สเปคเบื้องต้นของ 
Samsung Galaxy S4

 ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean
 ซีพียู มี 2 แบบ รุ่นที่ขายทั่วโลกกับรุ่นที่ขายเฉพาะสหรัฐอเมริกา

รุ่นที่ขายทั่วโลกใช้ซีพียู 8 คอร์ ประกอบด้วยซีพียู 2 ตัว

    •    Samsung Exynos 5 Octa
    •    Quad-core A15 (1.6GHz) + Quad-core A7 (1.2GHz)

รุ่นที่ขายเฉพาะสหรัฐอเมริกา

    •    Qualcomm Snapdragon 600 APQ8064T
    •    Quad-core Krait 300
    •    ความเร็ว 1.9Ghz

 จีพียู PowerVR SGX544 และ Adreno 320 (ใช้กับซีพียู Snapdragon 600)
 แรม 2GB และหน่วยความจำ 16GB, 32GB และ 64GB  ใส่ micro SD เพิ่มได้สูงสุด 64GB
 หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1080p (441PPI)
 กล้องด้านหลัง 13 เมกะพิกเซล และกล้องด้านหน้า 2.1 เมกะพิกเซล
 รองรับ 4G LTE ทุกความถี่
 3G (HSPA+42Mbps) 850/900/1900/2100 MHz
 รองรับ Wi-Fi a/b/g/n, NFC, Bluetooth 4.0
 ขนาดตัวเครื่อง 136.6 x 69.8 x 7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 130 กรัม
 แบตเตอรี่ 2600 mAh (เปลี่ยนแบตได้) และรองรับ Wireless Charing
 ดูรายละเอียดสเปคอื่น ๆ คลิกที่นี่ 


           เอาล่ะ ได้รู้สเปคเครื่องกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูฟีเจอร์ที่บอกว่าจัดเต็มล่อตาล่อใจกันบ้าง มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

 Air Gestures

           สามารถใช้งานตัวเครื่องโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสบนหน้าจอ เพียงแต่เลื่อนมือไปมาเหนือหน้าจอ ก็จะสามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ ได้แล้ว เช่น การปัดมือไปมาเพื่อเปลี่ยนหน้าบนเว็บบราวเซอร์ เป็นต้น

 Drama Shot

           ฟีเจอร์ถ่ายภาพที่สามารถจับภาพ 12 ภาพได้ในครั้งเดียว และแสดงภาพแบบ Time-lapse ให้เห็นแอ็คชั่นต่าง ๆ โดยจับรวมเป็นภาพเดียวกัน

 Dual Camera

           สามารถใช้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังในคราวเดียวกัน ให้ภาพจากทั้งสองกล้องปรากฏออกมาในลักษณะที่วางซ้อนกันอยู่

 Dual Video Call

           ขณะที่เรากำลังวิดีโอแชทอยู่กับเพื่อน ก็สามารถโชว์ทั้งภาพจากกล้องหน้าและกล้องหลังให้เพื่อนได้เห็นไปพร้อม ๆ กันได้

 S Health

           แอพพลิเคชั่นเพื่อคนรักสุขภาพ สามารถติดตามระดับปริมาณแคลอรี่ของอาหาร นับก้าวเดิน และถ่ายภาพบันทึกอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน

 S Voice Drive

           ฟังก์ชั่นช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับรถ โดยการสั่งการผ่านเสียง และยังมีฟังก์ชั่นอ่านให้ฟังได้อีกด้วย

 Sound & Shot

           ให้คุณได้บันทึกเสียงสูงสุด 9 วินาที กับรูปถ่ายแต่ละรูป

 Adapt Display

           ปรับแสงหน้าจอ ให้เหมาะสมกับสภาพแสงขณะใช้งาน เพื่อถนอมสายตา

 Eraser

           ลบภาพบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากเฟรม เหมาะสำหรับการถ่ายภาพท่ามกลางสถานการณ์ที่มีคนพลุกพล่าน

 Smart Pause

           เมื่อเราดูวิดีโอ กล้องด้านหน้าจะทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์จับสายตาของเราว่ากำลังดูวิดีโออยู่หรือไม่ หากสายตาเรามองไปทางอื่น วิดีโอจะถูกหยุดโดยอัตโนมัติ

 Smart Scroll

           เมื่อเรากำลังอ่านอีเมล หรือคอนเท้นท์ต่าง ๆ บนเว็บ กล้องหน้าก็จะคอยทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์จับสายตาของเราเช่นกัน โดยเมื่อเราอ่านจนสุดหน้าแล้ว ก็จะเลื่อนหน้าให้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือเลื่อนเองเลย

          ส่วนเรื่องราคา ตอนนี้มีราคา Samsung Galaxy S4 วางจำหน่ายที่สหรัฐฯ เผยออกมาแล้ว โดยราคา Samsung Galaxy S4 รุ่น 16GB ราคาเริ่มต้นที่ $579 หรือประมาณ 17,100 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีของแต่ละรัฐ) ซึ่งหากนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เชื่อว่าน่าเปิดราคามาเท่ากับ Galaxy S3 อยู่ราว ๆ 21,900 บาท

           เห็นแบบนี้แล้ว เชื่อว่าคงจะทำให้หลาย ๆ คนอยากได้มาครอบครองอย่างเร็วที่สุดเลยล่ะ แต่ก็ต้องรอกันไปก่อนนะครับ เพราะ Samsung Galaxy S4 มีกำหนดจะวางจำหน่ายทั่วโลกประมาณสิ้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้