วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

Samsung Galaxy S4 เปิดตัวแล้ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung Galaxy S4 เปิดตัวแล้ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  engadget.com , droid-life.com

           หลังจากรอลุ้นกันมานานหลายเดือน ในที่สุดซัมซุงก็ได้เปิดตัว Samsung Galaxy S4 ออกมาให้ได้ยลโฉมกันแล้ว งานนี้เชื่อว่าคงทำให้หลาย ๆ คนอยากจะได้มาครอบครองเร็ว ๆ เลยล่ะ พอขนฟีเจอร์ใหม่มาแบบชนิดที่ว่า ล่อตาล่อใจ ทำให้หลงรักเอาได้ง่าย ๆ ทั้งสาวกซัมซุง หรือคนที่ไม่ใช่สาวกซัมซุงก็เถอะ

           โดยซัมซุงได้เปิดตัว Samsung Galaxy S4 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ที่ Radio City Music Hall มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ด้วยรูปลักษณ์ตัวเครื่องที่ไม่ได้แตกต่างอะไรกับ Samsung Galaxy S3 เท่าไรนัก แต่หน้าจอมีขนาดใหญ่กว่า ตัวเครื่องเบาและบางกว่า (บาง 7.9 มม. หนัก 130 กรัม) ส่วนสเปคนั้น เรียกว่าดีกว่า แรงกว่า มีรายละเอียดยังไงบ้าง ไปดูกันเลยครับ

          สเปคเบื้องต้นของ 
Samsung Galaxy S4

 ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean
 ซีพียู มี 2 แบบ รุ่นที่ขายทั่วโลกกับรุ่นที่ขายเฉพาะสหรัฐอเมริกา

รุ่นที่ขายทั่วโลกใช้ซีพียู 8 คอร์ ประกอบด้วยซีพียู 2 ตัว

    •    Samsung Exynos 5 Octa
    •    Quad-core A15 (1.6GHz) + Quad-core A7 (1.2GHz)

รุ่นที่ขายเฉพาะสหรัฐอเมริกา

    •    Qualcomm Snapdragon 600 APQ8064T
    •    Quad-core Krait 300
    •    ความเร็ว 1.9Ghz

 จีพียู PowerVR SGX544 และ Adreno 320 (ใช้กับซีพียู Snapdragon 600)
 แรม 2GB และหน่วยความจำ 16GB, 32GB และ 64GB  ใส่ micro SD เพิ่มได้สูงสุด 64GB
 หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1080p (441PPI)
 กล้องด้านหลัง 13 เมกะพิกเซล และกล้องด้านหน้า 2.1 เมกะพิกเซล
 รองรับ 4G LTE ทุกความถี่
 3G (HSPA+42Mbps) 850/900/1900/2100 MHz
 รองรับ Wi-Fi a/b/g/n, NFC, Bluetooth 4.0
 ขนาดตัวเครื่อง 136.6 x 69.8 x 7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 130 กรัม
 แบตเตอรี่ 2600 mAh (เปลี่ยนแบตได้) และรองรับ Wireless Charing
 ดูรายละเอียดสเปคอื่น ๆ คลิกที่นี่ 


           เอาล่ะ ได้รู้สเปคเครื่องกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูฟีเจอร์ที่บอกว่าจัดเต็มล่อตาล่อใจกันบ้าง มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

Samsung เปิดตัว Galaxy S4 ฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

 Air Gestures

           สามารถใช้งานตัวเครื่องโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสบนหน้าจอ เพียงแต่เลื่อนมือไปมาเหนือหน้าจอ ก็จะสามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ ได้แล้ว เช่น การปัดมือไปมาเพื่อเปลี่ยนหน้าบนเว็บบราวเซอร์ เป็นต้น

 Drama Shot

           ฟีเจอร์ถ่ายภาพที่สามารถจับภาพ 12 ภาพได้ในครั้งเดียว และแสดงภาพแบบ Time-lapse ให้เห็นแอ็คชั่นต่าง ๆ โดยจับรวมเป็นภาพเดียวกัน

 Dual Camera

           สามารถใช้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังในคราวเดียวกัน ให้ภาพจากทั้งสองกล้องปรากฏออกมาในลักษณะที่วางซ้อนกันอยู่

 Dual Video Call

           ขณะที่เรากำลังวิดีโอแชทอยู่กับเพื่อน ก็สามารถโชว์ทั้งภาพจากกล้องหน้าและกล้องหลังให้เพื่อนได้เห็นไปพร้อม ๆ กันได้

 S Health

           แอพพลิเคชั่นเพื่อคนรักสุขภาพ สามารถติดตามระดับปริมาณแคลอรี่ของอาหาร นับก้าวเดิน และถ่ายภาพบันทึกอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน

 S Voice Drive

           ฟังก์ชั่นช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับรถ โดยการสั่งการผ่านเสียง และยังมีฟังก์ชั่นอ่านให้ฟังได้อีกด้วย

 Sound & Shot

           ให้คุณได้บันทึกเสียงสูงสุด 9 วินาที กับรูปถ่ายแต่ละรูป

 Adapt Display

           ปรับแสงหน้าจอ ให้เหมาะสมกับสภาพแสงขณะใช้งาน เพื่อถนอมสายตา

 Eraser

           ลบภาพบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากเฟรม เหมาะสำหรับการถ่ายภาพท่ามกลางสถานการณ์ที่มีคนพลุกพล่าน

 Smart Pause

           เมื่อเราดูวิดีโอ กล้องด้านหน้าจะทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์จับสายตาของเราว่ากำลังดูวิดีโออยู่หรือไม่ หากสายตาเรามองไปทางอื่น วิดีโอจะถูกหยุดโดยอัตโนมัติ

 Smart Scroll

           เมื่อเรากำลังอ่านอีเมล หรือคอนเท้นท์ต่าง ๆ บนเว็บ กล้องหน้าก็จะคอยทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์จับสายตาของเราเช่นกัน โดยเมื่อเราอ่านจนสุดหน้าแล้ว ก็จะเลื่อนหน้าให้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือเลื่อนเองเลย

          ส่วนเรื่องราคา ตอนนี้มีราคา Samsung Galaxy S4 วางจำหน่ายที่สหรัฐฯ เผยออกมาแล้ว โดยราคา Samsung Galaxy S4 รุ่น 16GB ราคาเริ่มต้นที่ $579 หรือประมาณ 17,100 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีของแต่ละรัฐ) ซึ่งหากนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เชื่อว่าน่าเปิดราคามาเท่ากับ Galaxy S3 อยู่ราว ๆ 21,900 บาท

           เห็นแบบนี้แล้ว เชื่อว่าคงจะทำให้หลาย ๆ คนอยากได้มาครอบครองอย่างเร็วที่สุดเลยล่ะ แต่ก็ต้องรอกันไปก่อนนะครับ เพราะ Samsung Galaxy S4 มีกำหนดจะวางจำหน่ายทั่วโลกประมาณสิ้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้

           



วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

เลขเด็ดงวดนี้ 1 เมษายน 2556 ทั่วสำนักในไทย


เลขเด็ด ยายรวย : 43 / 72 / 39 / 74 / 96 / (ความแม่นยำ 20 %)
เลขเด็ด พ่อบุญทอง : 75 / 59 / 75 / 26 / 89 / (ความแม่นยำ 84 %)
เลขเด็ด หลวงพ่อปากแดง : 17 / 84 / 37 / 40 / 56 / ความแม่นยำ 64 %)
เลขเด็ด ม้าสีหมอก : 58 / 29 / 86 / 33 / 28 / (ความแม่นยำ 59 %)
เลขเด็ด ปู่คำสิน : 63 / 47 / 46 / 80 / 16 / (ความแม่นยำ 33 %)
เลขเด็ด ลุงอินทร์ : 44 / 13 / 26 / 10 / 24 / (ความแม่นยำ 85 %)
เลขเด็ด นำโชค : 26 / 56 / 12 / 93 / 26 / (ความแม่นยำ 72 %)
เลขเด็ด เจ้าพ่อปลดหนี้ : 33 / 23 / 56 / 69 / 44 / (ความแม่นยำ 20 %)
เลขเด็ด รวยไม่เลิก : 42 / 08 / 94 / 33 / 84 / (ความแม่นยำ 45 %)
เลขเด็ด เกิดมาเฮง : 14 / 98 / 32 / 93 / 68 / (ความแม่นยำ 90 %)





คนนี้เคยบอกถูกจ้า


ร้อย   034

สิบ     356

หน่วย   01348

3=30-31-33-34-38

5=50-51-53-54-58

6=60-61-63-64-68


สถิติเลขเด็ด 1 เมษายน 2556

สถิติเลขสองตัวล่างที่ออกบ่อยที่สุดในเดือนเมษายน ทั่งวันที่1และ16
ตั่งแต่ปีพศ38
99 ออก1
77 ออก1
22 ออก1
44 ออก1
62ออก2ครั่ง
92ออก2ครั่ง
69 96 ออก3ครั่ง
63 ออก 2ครั่ง
เท่าที่สังเกต 6 9 3 2 ออกเยอะสุด



2ตัวล่างแม่นๆงวดวันที่1เม.ย.56 ไม่ต้องกลับให้เสียเงินฟรีๆ

05 15 35 45 75 85 
49 59 69

ล่าง9ชุดไม่ต้องกลับ ซื้อยังไงก็ได้กำไร แต่ถ้าใครว่าเยอะจัดก็ผ่านเลยนะคะ ไว้ใกล้ๆจะมาบอกว่าให้เน้นๆที่ตัวไหน สถิติตั้งแต่มกราคมไม่เคยพลาดเลย ลองลงแบ่งปันงวดนี้เป็นงวดแรก (อ.ปาล์ม)


หวยซองแม่นๆ ทองคำนำโชค งวดที่ 1เมษายน2556 1/4/56 หวยเด็ดเลขดัง
 เด่นบน 2 // 2ตัวบน 28 , 29 เด่นล่าง 1 // 2ตัวล่าง 31 , 61


หวยซองแม่นๆ ลูกเทวดา งวดที่ 1เมษายน2556 1/4/56 หวยเด็ดเลขดัง
 บน วิ่ง 8 // 2ตัวบน 48 , 68
ล่าง วิ่ง 0 // 2ตัวล่าง 30 , 60

หวยซองแม่นๆ 7เซียน สูตรล็อค งวดที่ 1เมษายน2556 1/4/56 หวยเด็ดเลขดัง สูตรล็อค เด่นบน 7 , 8 , 9 สูตรล็อค เด่นล่าง 0 , 1 , 2

หวยซองแม่นๆ หลวงปู่ งวดที่ 1เมษายน2556 1/4/56 หวยเด็ดเลขดัง หวยหลวงปู่เด่น 7 , 8 // เลข2ตัว 27 , 97 , 28 , 48

หวยซองแม่นๆ เพชรนพเก้า งวดที่ 1เมษายน2556 1/4/56 หวยเด็ดเลขดัง เด่นบน 8 // 2ตัวบน 28 , 58 เด่นล่าง 3 // 2ตัวล่าง 30 , 30


วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

โลกทรรศนะ มาสาย...กลับดึก


มาสาย...กลับดึก
มาสาย...กลับดึก
วันแรกที่เข้าเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่ง เมื่อรุ่นพี่บางคนบอกว่า "การอดนอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนในคณะนี้"

วันสุดท้ายในคณะนี้ ผมพบว่าตั้งแต่เรียนมาห้าปี ไม่เคยต้องอดนอนเลย ยกเว้นเมื่อต้องทำงานกลุ่ม ทั้งนี้มิใช่เพราะผมทำงานเร็วกว่าคนอื่น แต่เพราะผมไม่เชื่อในทัศนคตินั้น จึงพยายามพิสูจน์ว่ามันไม่จริง และพบว่าการวางแผนที่ดีแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แม้แต่การสร้างสรรค์งานศิลปะ ที่น่าขันก็คือน้อยคนที่อดนอนได้คะแนนดี

ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมานานร่วมสามสิบปี ห้าปีในนั้นผมทำงานในต่างประเทศ เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือหลายคนมองการก้าวเท้าออกจากสำนักงานตรงเวลาเป็นเรื่องประหลาดที่สุดในโลก (มิพักเอ่ยถึงการออกก่อนเวลาเมื่องานเสร็จแล้ว)

ผมรู้ความจริงภายหลังว่า คนจำนวนมากไม่ยอมออกจากสำนักงานตรงเวลา เพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่า ตนเองขยันขันแข็ง ยิ่งอยู่ดึก ยิ่งเป็นพนักงานตัวอย่าง เสียสละเพื่อองค์กร น่ายกย่องชมเชย บ่อยครั้งมีผลถึงการได้รับโบนัสตอนท้ายปี เนื่องจากเจ้านายมักเห็นหน้าเห็นตาใครคนนั้นหลังเวลาเลิกงานแล้วเสมอ

หากไม่เคยทำงานในต่างประเทศมาก่อน ผมอาจเข้าร่วมวงไพบูลย์ "มาสายกลับดึก" ด้วย แต่หลายปีในชีวิตการทำงานในประเทศ ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด ทำให้เห็นค่าเวลาทุกนาทีในชีวิต

ผมกลับมองว่าคนที่อยู่ดึกเป็นประจำคือ พวกไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา จึงต้องอยู่ดึก ยิ่งทำงานมากชั่วโมง ยิ่งแสดงถึงการทำงานโดยไม่มีการวางแผน ไม่มองภาพรวม

ลองคิดดู การอยู่ดึกเพื่อทำงานพิเศษหนึ่งคืน หมายถึงค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น ค่าทะนุบำรุงสูงขึ้น ผลกระทบต่อคนทำงานคือ พักผ่อนน้อยกว่าที่ควรเป็น ยิ่งอยู่ดึกประสิทธิภาพของงานในวันถัดไปยิ่งตกต่ำลง

มือกระบี่ชั้นหนึ่งในแผ่นดิน มองท่วงทีของศัตรูอย่างระวัง ตวัดกระบี่ในมือเพียงฉับเดียว ก็เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม มือกระบี่ชั้นรองต้องประกระบี่ดังโคร้งเคร้ง นานนับชั่วโมง ราวกับอยากบอกโลกว่า ข้าก็ใช้กระบี่นะโว้ย โลกรับรู้แต่คมกระบี่ก็บิ่น ต้องเสียเวลาลับกระบี่อีกหลายวัน

งานดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องตรงเวลาด้วย งานดีไม่มีทางเกิดขึ้นตามยถากรรม หรืออารมณ์ขึ้นลง ไปจนถึงความหนาแน่นรัดกุมของกฎเกณฑ์ "ตอกบัตร"

ปริมาณเวลาในการทำงานชิ้นหนึ่ง ไม่ได้เป็นสัดส่วนกับคุณภาพของผลงานเสมอไป บ่อยครั้งเป็นปฏิภาคกัน หลายครั้งงานที่ให้เวลาน้อย กลับออกมาดีกว่างานที่ให้เวลามาก

คนเก่งไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง ทำงานเสร็จแล้วก็เลิก ไม่ต้องรอเทวดาบนสวรรค์วิมานมารับรู้ เพราะถึงเวลานั้นเทวดาก็กลับบ้านไปแล้ว

วินทร์ เลียววาริณ

สรุปเลขเด็ดงวดนี้ 1 เมษายน 2556 หวยเด็ดงวดนี้

จากคุณ somjet07
ขอนำเสนอเลขล่าง 1 เม.ย. 56
เด่น*6-9* ตัวเดียว*6*
จัดชุด*96-86-76-98-97-66-99
เด่นสุดชุดเดียว*96*

จากคุณ ninja..nine
สรุปเลขเด็ดงวดนี้ 1 เมษายน 2556 หวยเด็ดงวดนี้
30 ธ.ค. 55 สามตัวหมุนครั้งที่ 2 ออก 864 เลขล่างงวดถัดมาออก 08
16 ม.ค. 56 สามตัวหมุนครั้งที่ 2 ออก 196 เลขล่างงวดถัดมาออก 66
01 ก.พ. 56 สามตัวหมุนครั้งที่ 2 ออก 695 เลขล่างงวดถัดมาออก 09
16 ก.พ. 56 สามตัวหมุนครั้งที่ 2 ออก 708 เลขล่างงวดถัดมาออก 37
01 มี.ค. 56 สามตัวหมุนครั้งที่ 2 ออก 721 เลขล่างงวดถัดมาออก 52
16 มี.ค. 56 สามตัวหมุนครั้งที่ 2 ออก 959 เลขล่างงวดถัดมาออก _9 _5
งวดนี้มีเลขสองตัวเองที่จะเป็นหลักหน่วยล่าง
งวดประจำวันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2556
(กรณียังเดินดีเหมือนเดิมนะครับ)
x9 - x5


หวยเด็ด 1 เมษายน 56 เลขเด็ดงวดนี้
เว็บบริการตรวจหวย พร้อมสถิติท่านสามารถดูได้ที่ 
ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล!!งวด 1 เมษายน ปี 2556 ได้ที่ 
http://lotto.join.in.th/result.php?myselect=560401
เวลาประมาณสี่โมงเย็นของวันที่ 1 เมษายน 2556 





วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

ประกาศผลสอบ o-net 56 ผลสอบโอเน็ต 2556

ประกาศผลสอบ o-net 56 ผลสอบโอเน็ต 2556


   น้อง ๆ ป.6 และ ม.3 ที่กำลังรอลุ้นผลสอบแบบทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ประจำปี 2556 ของ สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. อย่างใจจดใจจ่ออยู่ล่ะก็ ตอนนี้ สทศ. ได้ประกาศผลสอบโอเน็ต 2556 ของ ป.6 และ ม.3 อย่างเป็นทางการแล้วล่ะจ้า ถ้าอยากรู้ว่า ตัวเองได้คะแนนเท่าไหร่ อย่ารอช้ารีบไปเช็กผลสอบโอเน็ต 2556 กันเลย


   ตรวจผลสอบ o-net 56 ระดับชั้น ป.6  และ ม.3 แบบรายโรงเรียน คลิกที่นี่  
http://www.onetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/Login.aspx

 ตรวจผลสอบ o-net 56 ระดับชั้น ป.6  และ ม.3 แบบรายบุคคล คลิกที่นี่
http://www.onetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/Notice/FrEnquireStudentGraphScore.aspx

 ตรวจสอบคะแนนนักเรียนที่ยื่นสมัครสอบเข้า ม.1 และ ม.4 คลิกที่นี่
http://rps.niets.or.th/Login.aspx




         นอกจากนี้ สทศ. ได้เปิดเผย คะแนนเฉลี่ยของนักเรียน ป.6 และ ม.3 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนระดับชั้น ป. 6 มีผู้เข้าสอบ จำนวน 77,000 กว่าคน จากคะแนนเต็มวิชาละ 100 คะแนน

            วิชาสุขศึกษาและพละศึกษา มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 54.84 คะแนน

            วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี มีคะแนนเฉลี่ยรองลงมาอยู่ที่ 53.85


         วิชาที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด 3 อันดับท้าย คือ

            วิชาวิทยาศาสตร์ 37.46 คะแนน

            วิชาภาษาอังกฤษ 36.99 คะแนน

            วิชาคณิตศาสตร์ 35.77 คะแนน

 คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนระดับชั้น ม. 3

            วิชาสุขศึกษาและพละศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดจากการสอบใน 8 กลุ่มวิชา อยู่ที่ 56.67 คะแนน

            วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีมี คะแนนเฉลี่ยรองลงมาอยู่ที่ 47.39 คะแนน

         วิชาที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด 3 อันดับท้าย คือ

            วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเฉลี่ย 35.37 คะแนน

            วิชาภาษาอังกฤษ 28.71 คะแนน

            วิชาคณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุดอยู่ที่ 26.95 คะแนน

คริส The Star 9 ไม่ได้ไปต่อ ในโจทย์เพลงร็อค

การแข่งขัน The Star ค้นฟ้าคว้าดาว ปี9 เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 2 แล้ว ในโจทย์เพลงร็อค ของ 7 ผู้แข่งขัน ดี ดีลิเลียน หมายเลข 1,อ้น กรกฏ หมายเลข 2,บูรณ์ ธันยบูรณ์ หมายเลข 3,คริส คริสโตเฟอร์ หมายเลข 4,แบมบี้ สิรินโสพิศ หมายเลข 5,ดิว นัทธพงศ์ หมายเลข 7 และ ตั้ม วราวุธ หมายเลข 8 งานนี้ บอกได้คำเดียวว่า มันน่า Rock อ่ะ สำหรับผลงานการแข่งขันของทั้ง 7 คน จะออกมาเป็นยังไง ไปชมกันเลยครับ



คริส The Star 9 ไม่ได้ไปต่อ กับการแข่งขัน โจทย์เพลงร็อค


คลิปย้อนหลัง The Star 9 โจทย์การแข่งขัน “เพลงร็อค”




จบการแข่งขัน ท้ายรายการ ก็ต้องมาลุ้นระทึก กับผลคะแนน 100 เสียงในห้องส่ง โดยในสัปดาห์นี้ น้องดี หมายเลข 1 คว้าคะแนนไปได้สูงสุด 36 คะแนน ถัดมาที่ ตั้ม 19 คะแนน,บูรณ์ 18 คะแนน,อ้น 10 คะแนน,ดิว 8 คะแนน,คริส 7 คะแนน ส่วนอันดับสุดท้ายได้แก่ แบมบี้ ได้ไป 2 คะแนน



โดม แก้ม เยือนเวที เดอะสตาร์



ก่อนที่จะทราบผล ผู้ไม่ได้ไปต่อ แก้ม และ โดม 2นักร้องเสียงดีรุ่นพี่ กลับมาเยือนเวทีเดอะสตาร์อีกครั้ง แล้วก็มาถึง วินาทีลุ้นระทึก กับการประกาศผลผู้ที่ได้ไปต่อ โดยเริ่มที่ แบมบี้,บูรณ์,ตั้ม,ดี,ดิว โดยเหลือ อ้น และ คริส ที่จะต้องมี หนึ่งคนที่ได้ไปต่อ และผู้ที่ไม่ได้ไปต่อ ได้แก่ คริส คริสโตเฟอร์ ซึ่งได้ฝากเพลง ขอบคุณที่รักกัน ไว้ เป็นเพลงสุดท้าย แทนคำอำลา และคำขอบคุณ



คริส คริสโตเฟอร์




สำหรับโจทย์การแข่งขันสัปดาห์หน้า กับ 6 คนสุดท้าย ในโจทย์เพลงลูกทุ่ง รักใคร เชียร์ใคร อยากให้ใครได้ไปต่อ โหวตให้ เดอะสตาร์ที่คุณชอบได้แล้ววันนี้ โดยพิมพ์ * (ดอกจัน) ตามด้วยหมายเลขผู้เข้าแข่งขัน ส่งมาที่ 4242899 (ค่าบริการครั้งละ 6 บาท ทั่วประเทศ) และ *4930 (ดอกจัน 4930) ตามด้วยหมายเลขผู้เข้าแข่งขัน แล้วโทรออก (เฉพาะโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ค่าบริการครั้งละ 6 บาท ทั่วประเทศ)

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

คํานำรายงาน เทคนิคง่าย ๆ เขียน คํานำทำรายงาน

ตัวอย่างคำนำ การเขียนคำนำ คํานํารายงาน เป็นหน้าสำคัญที่แจ้งให้ผู้อ่านทราบวัตถุประสงค์ ความเป็นมาของหนังสือ การเขียนคํานํารายงานที่ถูกวิธี ขอตัวอย่างการเขียนคำนำรายงานด้วยค่ะ เขียนอย่างไร ตัวอย่างคํานํา รายงานภาษาอังกฤษ (ที่เขียนเป็นภาษาไทย) รายงานฉบับนี้ วันนี้มีเรื่องคํานํารายงานตอนทำรายงานมาฝากกันค่ะ หลายคนๆคงมีปัญหาว่าจะมีวิธีการเขียนคํานํายังไง คิดไม่ออก. วันนี้เรามีคำแนะนำมาให้เป็นแนวทางกันค่ะ ลองดูน่ะค่ะ คํานํา. รายงานนีจัดทําขึนเพือรายงาน ผลการดําเนินงานตามโครงการทีได้รับการจัดสรรงบประมาณ. ให้ดําเนินการใน งบประมาณปี ข้อสรุปของการดําเนินงานในรายงานนี



คํานํารายงาน ตัวอย่างคํานํา วิธีเขียนคํานํา

  เชื่อว่าเพื่อน ๆ ทุกคนคงคุ้นเคยกับการทำ "รายงาน" เป็นอย่างดี (อิอิ รู้หรอกน่า บางคนยังดองไว้เป็นสิบเล่มยังไม่ได้ทำเลยใช่ป่ะ) และเวลาทำรายงานทีไร เราก็มักจะเขียนเนื้อหา ทำสารบัญ พิมพ์หน้าปก ออกมาเสร็จเรียบร้อยสวยงามตามลำดับ แต่แม้ว่ารูปเล่มเหมือนจะเสร็จแล้วก็ยังส่งไม่ได้ เพราะติดปราการด่านสุดท้ายคือ เขียน "คำนำ" ไม่เป็น!!!

            เอาล่ะสิ..."คำนำ" ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรายงานทุกเล่ม เพราะคนอ่านรายงานจะได้รู้ว่า รายงานเล่มนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เขียนขึ้นมาเพื่ออะไร ภาพรวมของรายงานเราคืออะไร ถ้าไม่มี "คำนำ" อาจารย์ส่งรายงานให้กลับมาแก้แน่ ๆ ว้า...แล้ว "คำนำ" ในรายงานเขาเขียนกันอย่างไรล่ะ (จะไปลอกใครก็ไม่ได้อีก) แต่ก็ไม่ต้องห่วงไปจ้ะ เพราะวันนี้ กระปุกดอทคอม รวบรวมแนวทางการเขียน "คำนำ" แบบง่าย ๆ มาฝาก อ่านแล้วก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะจ๊ะ (อย่าลอกไปทั้งดุ้นล่ะเดี๋ยวอาจารย์จับได้นะเออ)

            สำหรับหลักการเขียนคำนำรายงานนั้น หลักง่าย ๆ เลยก็คือต้องเขียนให้ผู้อ่านสนใจอยากจะอ่านรายงานของเรา โดยเริ่มต้นอาจจะเขียนถึงที่มาที่ไปของรายงานฉบับนี้ จุดประสงค์และเหตุผลของการทำรายงานประเด็นนี้ หรือเรียกร้องถึงความสำคัญของประเด็นที่จะนำเสนอ บอกความเป็นมาคร่าว ๆ โดยอาจตั้งเป็นคำถามชวนให้ผู้อ่านคิด แล้วโยงเข้าสู่เรื่องที่เราอยากจะบอกก็ได้ ไม่ควรกว้าง หรือย้อนไปไกลมากจนเกินไป หรือวกวนจนจับประเด็นไม่ได้ 

            ในส่วนของภาษาที่ใช้เขียนรายงานนั้น หากเป็นรายงานที่มีเนื้อหาทางวิชาการ ก็คงต้องภาษาทางการหน่อย แต่หากเป็นรายงานทั่ว ๆ ไป ไม่วิชาการมากนัก ก็ควรใช้ภาษาที่เป็นกันเองกับผู้อ่านจะดีกว่า 

            จากนั้น ในย่อหน้าถัดมา เราอาจจะกล่าวถึงรายงานของเราประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง ดึงมาเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ เพื่อชักชวนให้ผู้อ่านติดตาม บอกขอบเขตคร่าว ๆ ที่ผู้อ่านจะได้รับจากรายงานฉบับนี้ หรือการทำวิจัยชิ้นนี้ หากเป็นรายงานส่งอาจารย์ ก็อาจปิดท้ายด้วยการกล่าวขอขอบคุณอาจารย์ ผู้ที่ร่วมทำรายงานฉบับนี้ให้เป็นรูปเล่มเสร็จสิ้น และพูดถึงว่า รายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ หรือใครก็ตามที่น่าจะได้รับประโยชน์จากรายงานของเรานั่นเอง

             อ่อ...หลายคนอาจจะเคยเห็น หรือแม้กระทั่งเคยเขียนในรายงานด้วยซ้ำไปว่า "หากรายงานฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใด คณะผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย" ซึ่งจริง ๆ อาจไม่จำเป็นต้องเขียนประโยคนี้ก็ได้นะจ๊ะ (เพราะอาจารย์หลายท่านมักเสนอแนะมาว่า รายงานของเราไม่ควรมีข้อบกพร่อง) แต่อาจจะเขียนว่า "หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง" ก็น่าจะดีกว่าค่ะ เมื่อเขียนจบแล้วก็ลงชื่อผู้จัดทำปิดท้ายเท่านี้ก็ได้ "คำนำ" แปะหน้าแรกของรายงานแล้วล่ะจ้า 

 ว่าแล้วก็ขอสรุปอีกครั้งตามที่ราชบัณฑิตยสถาน ระบุไว้ว่า "คำนำที่ดีต้องมีลักษณะดังนี้"

             1. เขียนคำนำด้วยคำพังเพย หรือสุภาษิตที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง 

             2. เขียนคำนำโดยการอธิบายความหมายของเรื่อง 

             3. เขียนคำนำโดยขึ้นต้นด้วยคำกล่าวของบุคคลสำคัญ 

             4. เขียนคำนำด้วยการเล่าเรื่อง 

             5. เขียนคำนำด้วยคำถามหรือปัญหาที่สนใจ 

             6. เขียนคำนำด้วยการอธิบายชื่อเรื่อง 

             7. เขียนคำนำด้วยคำกล่าวถึงจุดประสงค์ของเรื่องที่เขียน 

             8. เขียนคำนำด้วยการกล่าวถึงใจความสำคัญของเรื่องที่เขียน

             คำนำที่ดีต้องเป็นความคิดใหม่ ความคิดแปลก หรือความคิดสนุก ต้องมีลักษณะนำ หรือเชิญชวนให้ผู้อ่าน อ่านเรื่องของเราให้จบให้ได้ คำนำจึงเป็นส่วนสำคัญในการเรียกร้องความสนใจของผู้อ่านตั้งแต่เริ่มต้นอ่านเรื่อง และดึงดูดใจให้อ่านเรื่องไปตลอด

 สิ่งสำคัญที่ควรเลี่ยงในการเขียนคำนำ ได้แก่

             1. ไม่ควรเอาประวัติศาสตร์ หรือเรื่องพื้น ๆ ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วมาเขียนเป็นคำนำ

             2. ไม่ควรอธิบายคำนำอย่างฟุ้งซ่าน จนไม่มีจุดหมายของเรื่อง

             3. ไม่ควรขึ้นคำนำด้วยคำบอกเล่าอันเกินควร

             4. ไม่ควรเขียนคำนำด้วยการออกตัว เช่น ออกตัวว่าไม่พร้อมหรือไม่เชี่ยวชาญเรื่องที่เขียน อาจทำให้ผู้อ่านไม่สนใจอ่านรายงานก็ได้

              5. ไม่ควรเขียนซ้ำกับส่วนสรุป หรือความลงท้าย

              6. ไม่ควรกล่าวถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง


 ตัวอย่างคำนำรายงาน 1

             รายงาน/เอกสารคำสอน/สื่อ ฯลฯ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา...ชั้นมัธยมศึกษาปีที่...โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง... ทั้งนี้ ในรายงานนี้มีเนื้อหาประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับ... ตลอดจนการประยุกต์ใช้...

             ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึง... ผู้จัดทำต้องขอขอบคุณอาจารย์...ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา หวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง

                                                                                                                   ลงชื่อ....
                                                                                                                    ผู้จัดทำ 

 ตัวอย่างคำนำรายงาน 2

             รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนวิชา...  โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้จัดทำได้ฝึกการศึกษาค้นคว้า และนำสิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาสร้างเป็นชิ้นงานเก็บไว้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของตนเองและครูต่อไป

             ทั้งนี้ เนื้อหาได้รวบรวมมาจากหนังสือแบบเรียน...และจากหนังสือคู่มือการเรียนอีกหลายเล่ม ขอขอบพระคุณอาจารย์...อย่างสูงที่กรุณาตรวจ ให้คำแนะนำเพื่อแก้ไข ให้ข้อเสนอแนะตลอดการทำงาน ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความคาดหวัง 

                                                                                                                    ลงชื่อ....
                                                                                                                     ผู้จัดทำ 


             อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างข้างต้นคือตัวอย่างของการเขียนคำนำรายงานส่งอาจารย์นะจ๊ะ ซึ่งหากใครจะเขียนคำนำของเอกสาร หรือหนังสือประเภทอื่น ๆ ก็สามารถนำเทคนิคดังกล่าวไปปรับใช้ในเรื่องของการเกริ่นนำ ภาษา และรูปแบบการเขียน เช่น การเปิดเรื่องด้วยบทกลอน บทร้อยกรอง สุภาษิตคำพังเพย คำคม ตั้งคำถามชวนคิดโยงเข้าเรื่อง หรือจะโน้มน้าวชักจูงให้ผู้อ่านคล้อยตาม เพื่อให้คำนำของเราเป็นคำนำที่เร้าความสนใจ และดึงดูดให้ผู้อ่านสนใจผลงานของเรานั่นเองค่ะ

ตัวอย่างคํานํา ที่ 1
 
คำนำ
                รายงานการประเมินตนเอง Self - Assessment Report : SAR ของวิทยาลัยการอาชีพปราสาทประจำปี การศึกษา 2552 เล่มนี้ เป็นรายงานผลการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ตามมาตรฐานการอาชีวศึกษา จำนวน 7 มาตรฐาน 43 ตัวบ่งชี้ ซึ่งเป็นการแสดงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยการอาชีพปราสาท ที่จะจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาทั้งระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช. ) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส. ) ให้ได้คุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา
                ขอขอบคุณ คณะกรรมการจัดทำรายงานการประเมินตนเอง และผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำ เอกสารเล่มนี้จนสำเร็จลุล่วง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษา ชุมชน และแหล่งการศึกษาอื่นๆ เพื่อนำไปพัฒนาสถานศึกษาให้เจริญยิ่งขึ้น จนเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการศึกษาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม จนสำเร็จตามภารกิจของการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาต่อไป
 
ตัวอย่างคํานํา ที่ 2

คำนำ
                คำนำรายงานฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาวิชาชีพครู ตามที่โรงเรียนได้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาตามแนวทางแห่งงพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มีการปฏิรูปครูหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ เพื่อมุ่งพัฒนาความสามารถของนักเรียน
                ผู้วิจัยได้จัดทำการศึกษาค้นคว้าและจัดกิจกรรมหลากหลายโดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญเพื่อฝึก
ทักษะการพูด ฟัง อ่าน และเขียน เพื่อหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแนวทางในการปรับปรุงการเรียนการสอน
และพัฒนาคุณภาพ ดังนั้นรายงานวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการเรียนคำศัพท์
ภาษาจีนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยให้เพื่อนช่วยสอนกับที่เรียนโดยครูผู้สอน
                ผู้ทำวิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานการวิจัยฉบับนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ที่สนใจที่จะพัฒนา
และปรับปรุงการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 
ตัวอย่างคํานํา ที่ 3

คำนำ
 
                รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ท ๕๐๔ ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่องลิลิตะเลงพ่าย  ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้จากตำราพิชัยสงคราม การจัดทัพ การตั้งทัพ การเคลื่อนทัพ กลศึกต่าง ๆ โหราศาสตร์ในการทำสงคราม ตลอดจนการประยุกต์ใช้ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในการรบของพระองค์ ผู้จัดทำได้เลือก หัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมถึงเป็นการเทิดพระเกียรติวีรกษัตริย์ไทย และ ความฉลาดของบรรพบุรุษ ผู้จัดทำจะต้องขอขอบคุณ อ.บุญเรือน รัฐวิเศษ ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา  เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน   
 
ตัวอย่างคํานํา ที่ 4
 
คำนำ

                การจัดทำคู่มือ การเขียนรายงานการวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การเสนอรายงานการวิจัยได้มีมาตรฐานเดียวกันสำหรับโครงการวิจัยทุกเรื่องที่ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ซึ่งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อนักวิจัยในการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการนำเสนอผลที่เป็นรูปแบบเดียวกัน ทั้งจะทำให้ผู้มาศึกษารายงานการวิจัย ได้เข้าใจระบบการอ้างอิง การสืบค้นที่เป็นแบบมาตรฐานเดียวกันทำให้การนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์มีความสะดวกและถูกต้องมากยิ่งขึ้น
                สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ใคร่ขอขอบคุณศาสตราจารย์ ดร. สมบัติธำรงธัญวงศ์ ที่ได้ให้คำแนะนำเบื้องต้น ขอขอบคุณสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้มอบคู่มือการนำเสนอรายงานการวิจัยของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำ และขอขอบคุณสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นแหล่งค้นคว้าและอ้างอิง เพื่อการจัดทำคู่มือฉบับนี้
                สำนักงาน ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักวิจัยและผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำวิจัย ในการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อความพร้อมในการนำเสนอผลงานวิจัยที่สมบูรณ์และถูกต้องต่อไป

ฮือฮา! ป้าเช็งออกซิงเกิ้ลพร้อมเอ็มวี สู้ด้วยใจไปให้ถึง ร้องเอง-เล่นเอง(ชมคลิป)


สู้ด้วยใจไปให้ถึง – ป้าเช็ง

ฮือฮา! ป้าเช็งออกซิงเกิ้ลพร้อมเอ็มวี ร้องเอง-เล่นเอง “สู้ด้วยใจไปให้ถึง“

นางศรวรรณ ศิริสุนทรินท์ หรือป้าเช็ง อายุ 72 ปี เจ้าของน้ำหมักชีวภาพมหาบำบัดและเจ้าของช่องทีวีซูปเปอร์เช็งที่เคยสร้างเสียงฮือฮาเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุดป้าเช็งได้ออกเพลงใหม่พร้อมเอ็มวีที่ร้องเองเล่นเองชื่อเพลง “สู้ด้วยใจไปให้ถึง” โดยบทเพลงดังกล่าวมีเนื้อหาให้กำลังใจกับผู้ฟังและให้ถือว่าอุปสรรคปัญหามีไว้ให้สู้ต่อไปซึ่งจุดสูงสุดต่ำสุดเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอและเก็บมาเป็นบทเรียน
ป้าเช็ง


บ่องตง คำฮิต บ่องตง ศัพท์ใหม่มาแรงในโลกออนไลน์

บ่องตง บ่องตง คำฮิตมาแรงในโลกออนไลน์เผยเป็นการควบรวมของคำว่า บอกตรงๆ คาดแรงทัน จุงเบยแน่นอน หลังจากที่ “จุงเบย” กลายเป็นคำฮิตติดปาก ถูกนำมาใช้ทั่วทุกวงการ จนเป็นกระแสฟีเว่อร์อยู่ในขณะนี้นั้น ล่าสุดได้มีคำใหม่ ปรากฎขึ้นมาใช้ในโลกอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง โดยคำนั้นคือคำว่า “บ่องตง” ซึ่งเป็นการเขียนรวบคำแทนคำว่า “บอกตรงๆ” นั่นเอง
บ่องตง

บ่องตง
ทั้งนี้คำดังกล่าวไม่ปรากฎแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม แต่ขณะนี้มีการเริ่มใช้อย่างแพร่หลายแล้วในหมู่ดารา และคาดว่าอีกไม่ช้าคำดังกล่าวจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เช่นคำว่า จุงเบย แน่นอน

บ่องตง


บ่องตง

จากกระแสคำฮิต”บ่องตง“ที่แปลงมาจากคำว่าบอกตรงๆ ได้แพร่กระจายอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์

ล่าสุดคาวบอย นักร้องชื่อดังบนสังคมออนไลน์หลังจากที่เคยออกซิงเกิ้ล “เจ็บจุงเบย” ตามกระแสคำฮิตจุงเบย จนโด่งดังไปทั่วประเทศ และมีผู้เข้าชมจากเว็บไซต์ยูทูปมากกว่า 1 ล้านคน โดยคาวบอยเป็นนักร้องในสังกัดบานาน่าที่มีน้ำเสียงคล้ายกับยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว จนมีคนขนานนามให้กับเขาว่าเป็นเงาเสียงของแอ๊ด คาราบาว

ซึ่งจากกระแสคำฮิตใหม่ “บ่องตง” คาวบอยก็ได้ออกซิงเกิ้ลใหม่เพื่อตามกระแสคำฮิตนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเนื้อหาในเพลงเป็นเรื่องราวที่ต่อจากเพลงเจ็บจุงเบย ทั้งนี้คาวบอยได้ระบุใต้คลิปเพลงว่า

“หวังว่าน้องๆจะเอาคำเหล่านี้ไปใช้ถูกที่ ถูกเวลา ภาษาไทยไม่มีวันวิบัติ มีแต่จะพัฒนาไปข้างหน้า ถ้าเราใช้ให้เป็น ภาษาไทยดิ้นได้ คำแฟชั่นผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ฟังเพื่อความบันเทิง แล้วเราจะมีความสุขที่ได้เกิดมาใช้ภาษาไทยครับ”"
บ่องตง


วันเกิดอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 143 ปี นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์


วันเกิดอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 143 ปี นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

  เมื่อพูดถึงชื่อของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เชื่อว่าคนทั้งโลก ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องรู้จัก เพราะเขาเป็นนักฟิสิกส์สุดอัจฉริยะที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเสียชีวิตไปเกือบ 60 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงได้ยินชื่อของเขาอยู่บ่อย ๆ ในปัจจุบันนี้ และในโอกาสที่วันนี้ เป็นวันครบรอบวันเกิด 143 ปี ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กระปุกดอทคอมขอนำเรื่องราวของอัจฉริยะระดับโลกท่านนี้มาฝากกันค่ะ

          อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2422 ที่เมืองอุล์ม ในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ทางตอนใต้ของเยอรมนี ในครอบครัวชาวยิว เขาเติบโตมาเหมือนกับเด็ก ๆ ทั่วไป โดยไม่ได้รับการปลูกฝังใด ๆ ด้านวิทยาศาสตร์ แถมยังมีทักษะการเรียนรู้ที่ช้ากว่าเด็กคนอื่น แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เมื่อเขาอายุได้ 5 ขวบ พ่อของเขาได้นำเข็มทิศพกพามาให้เล่น ไอน์สไตน์ก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าทำไมเข็มทิศจึงเปลี่ยนทิศทางไปได้ จึงพยายามหาคำตอบ และนี่ก็เป็นแรงผลักดันให้เขาได้ทำการทดลองต่าง ๆ 

          หลังจากนั้น เมื่อไอน์สไตน์อายุได้ 12 ปี เขาก็เริ่มเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ก่อนที่จะค้นพบตัวเองว่า ตัวเองมีความชื่นชอบและทักษะขั้นเทพในสาขาวิชาดังกล่าว และได้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสนามแม่เหล็กขึ้นมา เมื่ออายุได้เพียง 15 ปี 

          เมื่อเติบโตขึ้น เขาก็ย้ายไปอาศัยอยู่ในเมืองซูริก ของสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากสอบเข้าสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิสได้ เขาจึงเพิกถอนภาวะการเป็นพลเมืองของเยอรมนี กลายเป็นคนไร้สัญชาติอยู่นานกว่า 4 ปี ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ในสถาบันฯ ก่อนที่จะได้รับสิทธิ์การเป็นพลเมืองสวิสเมื่อเรียนจบ



          และหลังจากเรียนจบ ไอน์สไตน์ก็เริ่มชีวิตนักฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์ เขาค้นพบกลไกทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง และตั้งทฤษฎีต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย นับตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับโลก อย่างเรื่องแรงดึงดูด ไปจนถึงทฤษฎีเกี่ยวกับจักรวาลเลยทีเดียว โดยผลงานส่วนหนึ่งในทฤษฎีครอบจักรวาลของไอน์สไตน์ ได้แก่

          - ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง 
          - ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ซึ่งนำกลศาสตร์มาประยุกต์รวมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
          - ทฤษฎีโฟตอนกับความเกี่ยวพันระหว่างคลื่น-อนุภาค ซึ่งพัฒนาจากคุณสมบัติอุณหพลศาสตร์ของแสง
          - ทฤษฎีควอนตัมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอะตอมในของแข็ง
          - ทฤษฎีการเคลื่อนที่แบบบราวเนียน
          - ทฤษฎีแรงเอกภาพ
          - ขยายแนวความคิดยุคหลังนิวตัน สามารถอธิบายจุดใกล้ดวงอาทิตย์ ที่สุดของดาวพุธได้อย่างลึกซึ้ง
          - ทำนายการหักเหของแสงอันเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงและเลนส์ความโน้มถ่วง
          - วางรากฐานของจักรวาลเชิงสัมพัทธ์ และค่าคงที่จักรวาล
          - อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตัว

          ทั้งนี้ สำหรับชีวิตส่วนตัวของไอน์สไตน์นั้น เขาแต่งงานกับ มาริค ไลแซล เมื่อเขาอายุได้ 24 ปี หญิงที่เป็นทั้งคู่ชีวิต และคู่คิดที่มีสติปัญญา ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ ฮันส์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บุตรคนที่สองคือ เอดูอาร์ด เกิดที่ซูริคเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2453

           อย่างไรก็ดี ไอน์สไตน์และมาริคแยกทางกันไปเมื่อปี พ.ศ. 2462 ก่อนที่ไอน์สไตน์จะแต่งงานอีกครั้งกับเอลซา โลเวนธาล นางพยาบาลที่ดูแลเขาตอนที่ป่วย แต่ทั้งสองคนไม่มีลูกด้วยกัน กระทั่งในปี พ.ศ. 2498 ไอน์สไตน์ก็เสียชีวิตลงด้วยภาวะหัวใจวาย ที่เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐฯ

ดูไบ มิราเคิล สวนดอกไม้ใหญ่ที่สุดในโลก

เมือง ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเมืองการค้าการลงทุน และศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก นอกจากจะมีสถิติโลกมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ตึกเบิร์จ คาลิฟาที่สูงที่สุดในโลก ไม่พอในอาคารแห่งนี้ก็มียังลิฟท์ที่ทำความเร็วสูงที่สุดในโลกอีกต่างหาก เป็นต้น และในเร็วๆนี้ที่ ดูไบ กำลังจะมีสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเกิดขึ้นอีก ว่าแล้วประเทศแขกรวยน้ำมัน นี่มีตังใช้เหลือเฟือจริงๆ
เมือง ดูไบ

 เจ้าเมกะโปรเจ็กต์ สวนดอกไม้แห่งนี้ มีนามว่า “ ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น ” แปลตรงๆซื่อๆก็ สวนไม้อัศจรรย์ ดูไบ นั้นแหล่ะ โครงการที่ว่านี้แขกดูไบเขาตั้งใจให้เป็นสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนะ สร้างในเขต ดูไบแลนด์ กินพื้นที่ประมาณ 72,000 ตารางเมตร ภายในสวนประกอบด้วย ไม้นานาพันธุ์กว่า 45 ล้านต้นเลยทีเดียว โอโห้! เยอะอลังการงานสร้างจริง!
ตึกเบิร์จ คาลิฟา ดูไบ
เท่านี้ยังไม่พอ มีแพลนจะสร้างศูนย์การค้า ช้อปปิ้งมอลล์ ภัตตาคารหรู เอ้าท์เลทพรีเมี่ยม และศูนย์ดูแลต้นไม้ ขึ้นมาบริเวณใกล้สวนดอกไม้อีกด้วย ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดจะเริ่มขึ้นกลางปี 2013 นอกจากนี้ทางบริษัทต่างๆในดูไบ กำลังมีแผนจะปลูกต้นไม้ใหญ่รอบๆ เมืองอีก เพื่อป้องกันพายุทะลทรายในคาบสมุทรอาหรับซัดกระหน่ำเมือง
สวน ดูไบ มิราเคิล
สำหรับใครหลายๆ คนคงสงสัยว่า ดูไบ แดนอาหรับตะวันออกกลางนี้ มันมีแต่ทะเลทราย แล้วต้นไม้จะอยู่ได้อย่างไร เอาน้ำจืดที่ไหนมากมายมารดน้ำต้นไม้ตั้งหลายล้านต้น คำถามข้อสงสัยนี้คงจะหมูสำหรับเขา (แต่ที่นี่ไม่กินหมูนะจ๊ะนาย) ก็ใช้น้ำทิ้งจากคนในเมืองเขาใช้กัน มาบำบัดให้สะอาดพอรดน้ำต้นไม้ ก็เป็นการประหยัดทรัพยากรธรรมชาติแล้วนายจ๋า
สวน ดูไบ มิราเคิล
แต่ทว่า เจ้าสวนดอกไม้ ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตลอดทั้งปีนะ เพราะ ตั้งแต่ช่วงเดือน มิถุนายน – กันยายน เป็นช่วงซัมเมอร์ของเขาต่างจากบ้านเรา (ความจริงแล้ว แถวนี้ก็ร้อนทั้งปี) ที่แถบคาบสมุทรอาหรับร้อนมากมาย อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 40 องศาเลยทีเดียว เลยต้องปิดบริการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่รดน้ำต้นไม้ตลอดเวลา
นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาเที่ยวใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่เดือน ตุลาคม – พฤษภาคม ของทุกปี สวนดอกไม้ ดูไบ มิราเคิล เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-21.00 ค่าบริการ 5.50 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 165 บาท (1 ดอลล่า = 30 บาท) แต่เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
ข้อมูลและภาพ : travel.cnn.com / telegraph.co.uk / ladyandhersweetescapes.com /
เรียบเรียงโดย : Travel MThai